หลายคนคงเคยไปเดินตามงานแสดงสินค้าต่างๆ ทั้งศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  อิมแพคเมืองทองธานี เพื่อเลือกซื้อสินค้าหรือเข้าชมงาน แล้วเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการออกงานแสดงสินค้าว่าสามารถที่จะดำเนินการออกงานแสดงสินค้าได้บ้างหรือไม่ เพราะก็มีธุรกิจที่ทำอยู่เป็นประจำแล้ว บริษัท อัพไรท์ ครีเอชั่น จำกัด ขอบอกถึงแนวทางการดำเนินการออกงานแสดงสินค้าแบบเข้าใจง่าย เพื่อเป็นประโยชน์ในการออกงานแสดงสินค้าของคุณในอนาคต

 

ลักษณะของงานแสดงสินค้ามี 2 รูปแบบ คือ

1. งานลักษณะเปิด หมายถึง ทางผู้จัดงานเปิดให้คนทั่วไป บริษัททั่วไปสามารถมาร่วมสมัครออกงานได้เลย ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกกลุ่มใด สังกัดใดมาก่อน งานพวกนี้มักจะลงประกาศโฆษณาเปิดให้มาสมัครเข้าร่วม มีการเก็บค่าพื้นที่ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป เช่น งานเฟอร์นิเจอร์แฟร์, งานแฟร์ที่จัดโดยเอกชนต่างๆ

2. งานลักษณะปิด คือ จำเป็นต้องเป็นสมาชิกกลุ่ม หรือต้องเคยลงทะเบียนไว้กับหน่วยงานของรัฐ เช่น กลุ่มสินค้าโอทอป จึงจะสามารถมาออกงานแสดงสินค้าได้ อธิบายคือ งานต่างๆ ที่รัฐเป็นผู้จัด หรือเป็นผู้สนับสนุน ส่วนใหญ่ผู้ที่จะสามารถมาร่วมออกงานแสดงสินค้าได้นั้น  ต้องเป็นผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนของหน่วยงานของรัฐ เช่น งานเมดอินไทยแลนด์, งานโอทอปซิตี้, งานโอทอปซีเลค, งานมหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ, งานฟ้าใสคนไทยยิ้มได้ และอื่นๆ

 

โดยธรุกิจของคุณต้องดำเนินการเชิงธุรกิจเต็มรูปแบบคือ มีชื่อร้าน/บริษัท มีการจดทะเบียนการค้าถูกต้องตามกฎหมายเพื่อที่จะได้ลงชื่อขึ้นทะเบียนในการออกงานแสดงสินค้าต่างๆ สามารถที่จะแจ้งความประสงค์ได้หลายที่ อาทิ กรม กองของรัฐ เช่น กรมการค้าภายใน, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สำนักปลัด กระทรวงพาณิชย์, กรมส่งออก ฯลฯ โดยติดต่อไปในวันและเวลาราชการ โอกาสทางธุรกิจของคุณก็จะเพิ่มมากขึ้นข้อดีของการออกงานที่ได้ภาครัฐสนับสนุน คือ ค่าเช่าพื้นที่มักจะฟรีหรือไม่ก็ราคาถูก และมีประชาสัมพันธ์ที่ดี ที่สำคัญที่สุดเวลาภาครัฐจะมีการจัดงานแสดงสินค้าอะไร ถ้าสินค้าอยู่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องงาน ภาครัฐก็จะติดต่อมาร่วมออกงานแสดงสินค้าด้วยทุกครั้ง

 

ออกงานแสดงสินค้า

 

เรื่องของพื้นที่ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิ่งอื่นๆ เพราะถ้าพื้นที่ในการตั้งงานแสดงสินค้าของคุณ ใกล้ประตู ใกล้ทางเดิน หน้าห้องน้ำ หรือห้องมุม ถือได้ว่าเป็นทำเลที่ดีเพราะจะมีคนเดินผ่านตลอด นั่นจะหมายถึง ค่าใช้จ่ายเรื่องของพื้นที่อาจสูงขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นการเลือกงานแสดงสินค้าที่เหมาะสมกับธุรกิจ และการเลือกพื้นที่ในการตั้งบูธแสดงสินค้าสองสิ่งนี้ก็เป็นปัจจัยที่ถือได้ว่ามีความสำคัญอันดับต้นๆ ทีเดียว

โดยผลตอบแทนจากการลงทุนในการออกงานแสดงสินค้า สามารถวัดได้ทันทีหลังจากสิ้นสุดงานแสดงสินค้า ทำให้ประเมินได้ว่าคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไปหรือไม่ ถ้างานไหนคุ้มค่าก็พิจารณาในการเข้าร่วมงานนั้นๆ อีกในปีต่อไป อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวออกงานแสดงสินค้าที่ดีและมีความพร้อมก็จะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการออกงานแสดงสินค้ามากขึ้น เรียกได้ว่า “เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง”……. ออก “งานแสดงสินค้า” ทำอย่างไร ?

ผู้เขียน : Upright

บูธแสดงสินค้า งานแสดงสินค้า

แสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.